top of page

"ฟินแลนด์" ทำไมจึงมีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก ?!

- The Programme for International Student Assessment (PISA)

ได้จัดการสอบประเมินนักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับ

(เยาวชนอายุ 15 ปี) ของนักเรียนจำนวน 65 ประเทศ

โดยประเมินจากความสามารถในการอ่านออก

เขียนได้ และประเมิน 3 วิชาคือ การอ่าน คณิตศาสตร์ และ

วิทยาศาสตร์ ผลสอบออกมาปรากฏว่า "ฟินแลนด์"

ได้ที่ 2 รองจากเกาหลีใต้

- ประชาชนรู้หนังสือเกือบ 100%

- World Ecomonic Forum (เวทีเศรษฐกิจโลก) จัดให้ฟินแลนด์

เป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกทั้ง

ในระดับประถมศึกษาและระดับที่สูงกว่าขั้นพื้นฐาน (รวมระดับอุดมศึกษา)



การศึกษาในประเทศฟินแลนด์ จะเริ่มตั้งแต่ Daycare หรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสำหรับเด็กอายุ 8 เดือน - 5 ปี โดยที่ Daycare นั้นจะต้องมีสนามเด็กเล่นให้เด็กใช้วิ่งเล่นโดยที่ผู้ปกครองสามารถเข้าไปเป็นเพื่อนเล่นได้ 

        คำถามที่ตามมาคือ ทำไมต้องให้เด็กไป Daycare ตั้งแต่ยังเด็กมาก ?? อีว่า ฮูจาลา ผู้เชี่ยวชาญพัฒนาการของเด็กชาวฟินแลนด์เคยกล่าวไว้ว่า การศึกษาในช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่จำเป็นและสำคัญมากที่สุด เพราะจะส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงวัยโต เคยมีการวิจัยทางประสาทวิทยาค้นพบว่า 90% ของการเจริญเติบโตของสมองเด็กจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 5 ปี นี่คือสาเหตุที่ทำให้เด็กๆ ชาวฟินแลนด์ส่วนมากต้องเริ่มไป Daycare ตั้งแต่ยังเล็กมากนั่นเอง นอกจากนี้ อีว่า ฮูจาลา ยังเคยกล่าวประโยคเด็ดไว้ว่า "Daycare ไม่ใช่สถานที่ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะเอาลูกมาทิ้งไว้แล้วตัวเองก็ออกไปทำงานหาเงิน แต่ Daycare เป็นที่ที่เด็กๆ จะได้เล่นและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับเพื่อนใหม่"

        แต่สำหรับพ่อแม่บางคนที่ไม่อยากส่งลูกเล็กไป Daycare เนื่องจากลูกยังเล็กเกินไปจึงเป็นห่วงด้านความปลอดภัย ก็มีทางเลือกพิเศษให้ค่ะ นั่นก็คือพ่อแม่สามารถดูแลลูกที่บ้านได้ เปรียบเสมือนบ้านตัวเองเป็น Daycare โดยทางเทศบาลเมืองจะมีเงินจ่ายให้กับพ่อแม่ที่จัดบ้านตัวเองเป็น Daycare ด้วย !! แต่ก็ไม่ใช่ว่าพ่อแม่จะรับเงินแล้วก็มาเลี้ยงลูกแบบทิ้งขว้างได้นะคะ เพราะทางเทศบาลเค้าจะมีการสุ่มตรวจอยู่เสมอค่ะว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกได้เหมาะสมหรือเปล่า

        ต่อมาเมื่ออายุเข้า 6 ปี เด็กๆ ส่วนมากจะเข้าเรียนในโรงเรียนประเภท Pre-School / Kindergarten เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งก็เป็นโรงเรียนเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนประถมกึ่งๆ โรงเรียนอนุบาลบ้านเรานั่นเองค่ะ โดยเด็กๆ จะได้เรียนอ่านเขียนหนังสือกันอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการฝึกตนเองให้เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน เข้าใจในความต้องการของผู้อื่น และมีทัศนคติในแง่บวกต่อคนรอบข้างและวัฒนธรรมอื่นๆ

 

        และพออายุครบ 7 ปี ก็จะได้เวลาของ "การศึกษาภาคบังคับ" แล้วค่ะ คือบังคับเลยว่าต้องเข้าเรียนทุกคน โดยการศึกษาภาคบังคับของฟินแลนด์จะกินเวลาทั้งหมด 9 ปีตั้งแต่เกรด 1-9 (ประมาณป.1 - ม.3 บ้านเรา) โรงเรียนส่วนมากเป็นโรงเรียนรัฐบาล แน่นอนว่าเรียนฟรี ส่วนโรงเรียนเอกชนก็มีบ้างแต่ค่อนข้างน้อยค่ะ แต่ถึงจะเป็นโรงเรียนเอกชน นักเรียนก็เรียนฟรี !! เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของการเรียนในช่วงนี้คือ โรงเรียนในฟินแลนด์จะไม่มีหลักสูตร Gifted สำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านใดด้านหนึ่ง เพราะเขาถือว่าเด็กทุกคนควรได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กันอย่างเท่าเทียมกัน และควรให้สำคัญแก่เด็กที่เรียนอ่อนมากกว่าเด็กที่เรียนเก่ง

        สำหรับบรรยากาศการเรียนนั้น ห้องเรียนหนึ่งมักมีนักเรียนไม่เกิน 20 คน สัปดาห์หนึ่งเรียน 4-11 วิชา ตกวันละไม่เกิน 5 ชั่วโมง เช่น ภาษาหลัก (ภาษาฟินนิชหรือสวีดิช) ภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ พลศึกษา ศิลปะ หัตถกรรม เป็นต้น และที่สำคัญ ต่อให้บ้านนักเรียนจะอยู่ในชนบทไกลแค่ไหนก็ไม่ต้องห่วงค่ะ ทางโรงเรียนจะมีรถนักเรียนไปรับ-ส่งนักเรียนฟรีค่ะ (เริดสุด)

        และพอจบเกรด 9 แล้ว ก็จะจบการศึกษาภาคบังคับ ใครไม่อยากเรียนต่อก็ได้ ส่วนใครที่อยากเรียนต่อ ก็จะสามารถแบ่งไปได้ 2 ทางคือ

- โรงเรียนมัธยมปลาย คือเรียนต่อไปเกรด 10-12  เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อในคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยในสายวิชาการ เช่น แพทยศาสตร์ ครุศาสตร์ นิติศาสตร์

- โรงเรียนสายอาชีพ เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการฝึกทักษะวิชาชีพ

        และเมื่อเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมปลายหรือโรงเรียนสายอาชีพแล้ว ก็จะเข้าสู่มหาวิทยาลัยทั่วไป และ โพลีเทคนิค พอเรียนจบปริญญาตรี ก็ต่อปริญญาโทและเอกได้  ส่วนโพลีเทคนิค จะใช้เวลาเรียน 3-4 ปี

ปัจจุบันฟินแลนด์มีจำนวนมหาวิทยาลัยประมาณ 20 แห่ง และมีจำนวนโพลีเทคนิคประมาณ 30 แห่ง ทั้งหมดนี้เรียนฟรีแถมมีอาหารกลางวันให้อีกด้วย (ส่วนค่าอุปกรณ์การเรียนนักศึกษาต้องเป็นผู้ออกเอง)

bottom of page